เมื่ออินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วโลก ผู้คนได้รับข้อมูลที่รวดเร็วและสะดวกกว่าที่เคยอย่างไรก็ตาม เมื่อสิ่งต่าง ๆ มาถึงจุดที่ต้องทำการตัดสินใจ เช่น การซื้อขายข้ามกลุ่มขนาดใหญ่ พวกเขาจะเลือกที่จะเข้าร่วมในงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมที่พวกเขามีโอกาสสนทนาแบบเห็นหน้ากับผู้อื่น

ยกตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมแสงสว่าง ทุกๆ ปีมีผู้ซื้อจำนวนมหาศาลหลั่งไหลเข้าสู่งานแสดงสินค้าแสงสว่างชั้นนำเพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์และซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมแต่ความท้าทายอีกประการหนึ่งที่พวกเขาได้พบก็คือ ด้วยข้อมูลมากมายที่งานแสดงนี้ พวกเขาจะระบุซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมได้อย่างไรภายในเวลาที่จำกัดผู้แสดงสินค้าบางรายโฆษณาตัวเองด้วยพารามิเตอร์ผลิตภัณฑ์บางอย่างมีราคาที่ต่ำ และยังมีบางคนบอกว่าผลิตภัณฑ์ของตนสว่างกว่าแต่มีเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติตามหรือไม่?

Steffen ผู้นำเข้า LED ในยุโรป ซึ่งประสบความสำเร็จในการเลือกซัพพลายเออร์ LED ระยะยาวในงาน Light+Building 2018 ได้ให้คำแนะนำของเขา

1. การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของซัพพลายเออร์ที่เลือกไว้ล่วงหน้า

สำหรับการเตรียมตัว Jack ระบุว่าคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดสำหรับการเลือกซัพพลายเออร์คือการตรวจสอบความน่าเชื่อถือก่อนเข้าร่วมงานแสดงสินค้าโดยทั่วไป วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการระบุความน่าเชื่อถือคือการดูว่าซัพพลายเออร์มีประวัติยาวนานในอุตสาหกรรมหรือไม่ ซึ่งบ่งชี้ว่ามีประสบการณ์เพียงพอในการจัดการกับธุรกิจ

2. การประเมินความสามารถของผู้จัดหาที่มีศักยภาพ

การประกันคุณภาพมักถูกมองว่าเป็นตัวบ่งชี้ที่ยากในการวัดโดยปกติแล้ว ซัพพลายเออร์ที่คำนึงถึงคุณภาพจะต้องผ่านข้อกำหนดต่างๆ ของหน่วยงานภายนอกที่น่าเชื่อถือ เช่น DEKRA หรือ SGSด้วยอุปกรณ์ มาตรฐาน และระบบที่ผ่านการทดสอบแล้ว ซัพพลายเออร์ควรสามารถรับประกันคุณภาพที่เข้มงวดตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงการออกแบบและการผลิต

3. ตรวจสอบความเชี่ยวชาญของทีมซัพพลายเออร์

การเยี่ยมชมแบบแสดงให้ผู้ซื้อมีโอกาสโต้ตอบโดยตรงกับทีมขายต่างๆ ทำให้พวกเขาสามารถตัดสินความเป็นมืออาชีพและความยืดหยุ่นของบริการได้ทีมที่ช่ำชองมักจะยึดถือ “ลูกค้ามาก่อน บริการอย่างมืออาชีพ” เป็นจรรยาบรรณ โดยมุ่งเน้นที่การช่วยเหลือลูกค้าด้วยวิธีแก้ปัญหาโดยรวม แทนที่จะเร่งรีบเพื่อสรุปคำสั่งซื้อ